Thursday, December 16, 2010

วังน้ำเขียว ฟลอร่าแฟนตาเซีย




สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน สนับสนุนการประชาสัมพันธ์โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)สำนักงานนครราชสีมา จัดงานสีสันแห่งความสุข “Wangnamkeaw Flora Fantasia” วังน้ำเขียว ฟลอร่า แฟนตาเซีย มหัศจรรย์งานศิลป์ ดินแดนแห่งความสุข ในระหว่างวันที่ 20 ธันวาคม 2553 – 28 กุมภาพันธ์ 2554 ณ บริเวณแยกวัดโพธิ์เฉลิมพระเกียรติ (ทางหลวงหมายเลข 3052 วังน้ำเขียว – เขาแผงม้า กิโลเมตรที่ 9) ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา







สำหรับพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม อากาศที่สุดบริสุทธิ์ เป็นที่กล่าวขานของสุขภาพนิยม กับอีกหนึ่งสีสันของเทศกาลความสุขที่เกิดขึ้น ตลอด 3 เดือนในช่วงฤดูหนาว



“วังน้ำเขียว ฟลอร่า แฟนตาเซีย” มหัศจรรย์งานศิลป์ ดินแดนแห่งความสุข เป็นงานที่น่าสนใจ และถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ควรค่าแก่การเดินทางท่องเที่ยวยิ่งนัก



เริ่มต้นด้วยการเนรมิตศิลปะกลางหุบเขา ให้เป็นสวนจิตรกรรมธรรมชาติท่ามกลางขุนเขาและสายหมอก มหกรรมการแสดงดอกไม้คู่กับงานศิลปะที่งดงามไม่แพ้มหกรรมดอกไม้ใดๆ ที่จัดขึ้นในโลกนี้ สุดยอดความสวยงามของมวลดอกไม้หลากหลายบนเนื้อที่กว่า 60 ไร่ สวนจิตรกรรมธรรมชาติเทคนิค Vertical Garden โดยร่วมกับศิลปินชั้นนำ จำลองภาพอลังการดุจภาพวาดจากปลายพู่กันและถังสีขนาดยักษ์ ด้วยเขาวงกตดอกไม้กว่า 200,000 กระถาง ดอกไม้ปลูกและหว่านกว่าล้านเมล็ด จุดชมวิวและถ่ายภาพมุมสูง และที่สำคัญรายได้จากบัตรเข้าชมหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ร่วมสร้างอาคารภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 8 สภากาชาดไทย



กิจกกรมหลักประจำเดือน



•ธันวาคม

◦18 ธันวาคม 2553 Grand Opening

◦25 ธันวาคม 2553 ฉลองคริสต์มาส

◦31 ธันวาคม 2553 ต้อนรับปีใหม่

•มกราคม

◦1-2 มกราคม 2554 รื่นเริงรับปีใหม่

◦8 มกราคม 2554 สนุกสนานวันเด็ก

•กุมภาพันธ์

◦3-6 กุมภาพันธ์ 2554 ตรุษจีนมหามงคล

◦13-14 กุมภาพันธ์ 2554 หวานฉ่ำวันวาเลนไทน์

กิจกกรมทุกเสาร์-อาทิตย์ ตลอกเทศกาล



•กิจกรรมดีไซน์จัดดอกไม้โต๊ะอาหาร (Tablescapes) และอาหารจากดอกไม้โดยเชฟชื่อดัง (Blooming Cuisine)

•กิจกรรมวาดภาพสีน้ำดอกไม้สำหรับเยาวชน และกิจกรรมเกม สันทนาการต่างๆที่เวียนมาในแต่ละสัปดาห์





เหมาะสำหรับ

ครอบครัว, เที่ยวคนเดียว, เที่ยวเป็นกลุ่ม, เที่ยวเป็นคู่



ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา

โทรศัพท์: 044-213-666, 044-213-030



สอบถามเพิ่มเติมและซื้อบัตรได้ที่ช่องทางการจำหน่ายบัตรจองบัตรได้ที่



•เคาน์เตอร์เซอร์วิส และเซเว่นอีเลฟเว่น ทุกสาขา

•ไทยทิคเก็ตเมเจอร์

◦จุดจำหน่ายบัตร (TTM Outlet) 13 แห่ง ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ

◦โรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ และอีจีวีเว็บไซต์

◦www.thaiticketmajor.com

◦TTM Call Center 02-262-3456

•ไปรษณีย์ไทย ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

•วังน้ำเขียว ฟลอร่า แฟนตาเซีย

◦โทรศัพท์ 082-134-4797, 082-134-4135, 02-187-0295–6

◦www.wangnamkeawflora.com

เว็บไซต์: www.wangnamkeawflora.com


การเดินทาง



แหล่งข่าว: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา

Sunday, June 14, 2009

อุ้มผาง ป่าโอบน้ำ.. ทีลอซู



ที่เป็นเช่นนั้นก็ด้วยว่าการเดินทางจากหน้าด่านตรวจเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (ด่านเดลอ) เข้าสู่ที่ทำการเขตฯ กว่า 25 กม. ในช่วงฟ้าหลังฝน หรือช่วงหน้าแล้ง เดือนพฤษจิกายน - พฤษภาคม เส้นทางที่ล้วนเป็นดินแดงลูกรังที่ปูลาดผ่านป่านั้น ไม่มีแม้ปัญหาอุปสรรคดินโคลนเปียกแฉะใด ๆ ทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวเหมาะกับการนั่งรถตะลุยเข้าไปมากกว่าการเดินอย่างแน่นอน
(...ณ จุดตรวจฯ ก่อนรถจะผ่านเข้าไปได้จะต้องเสียค่าธรรมเนียม หรือเรียกกันง่าย ๆ ว่าต้องซื้อ "บัตรผ่าน" กันก่อน โดยการเข้าไปยังที่ทำการเขตฯ จะต้องซื้อบัตรผ่านในราคาที่แบ่งไว้ดังนี้ : คนไทยผู้ใหญ่ 20 บาท - เด็ก 10 บาท, คนต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท - เด็ก 100 บาท ยังไม่รวมค่าพาหนะรถ (4ล้อ) ต่างหากอีกคันละ 30 บาท...)
การนั่งรถระยะทางกว่า 25 กม. ก็ใช่ว่าจะสบายเหมือนใจคิดเท่าไรนัก ยิ่งถ้าได้นั่งกระบะหลังด้วยแล้ว ไม่ต้องพูดถึงกันเลย สนุกท้าทายไปอีกแบบเลยทีเดียว เพราะด้วยสภาพพื้นเส้นถนนที่เป็นลูกรังกว่า 98 เปอร์เซ็นต์ (อีก 2 เปอร์เซ็นต์อัพเกรดเป็นพื้นซีเมนต์ลาดยางประปรายเป็นช่วงๆ) แถมยังต้องทนนั่งกินฝุ่นไปตลอดทาง 25 กม. พร้อมกับอุณหภูมิของลมหนาวยามเช้าที่พัดผ่านปะทะกายอย่างยะเยือก ทำให้กลายเป็นการผจญภัยแบบใหม่ ที่ไม่เหมาะกับผู้เป็นภูมิแพ้เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหากทัวร์เจ้าไหนบริการดีก็จะมีหน้ากากปิดปากปิดจมูกให้สวมใส่กัน แต่ก็เท่านั้น ไม่ว่าคุณหรือใครก็ต้องมอมแมมกันไปทั้งหัวทั้งตัว จากฝุ่นที่มันตลบอบอวลมาตลอดเส้นทาง

นอกจากทางเข้าจากหน้าด่านฯ กว่า 25 กม.ที่ว่าแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเส้นทางของผู้รักการผจญภัยโดยแท้ ที่อาจจะต่อยอดจากการ
"ล่องเรือยางในน้ำแม่กลอง" เดินทางต่อไปยังที่ทำการเขตฯ ที่ตั้งของน้ำตกทีลอซู ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นโปรแกรมที่ต่อเนื่องหลังล่องเรือยาง โดยเรือยางจะหยุดเทียบที่ "ท่าทราย" ส่งให้คุณเดินเท้าหรือนั่งรถต่อไปยังที่ทำการเขตฯ ที่เหลือระยะทางอีกเพียง 10 กม.เท่านั้น






เอาล่ะ...ตอนนี้เราเข้ามาถึงที่ทำการเขตฯ เรียบร้อยแล้ว หลังจากตะลุยฝ่าฝุ่นมาจนเนื้อตัวมอมแมม ณ "ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง" แห่งนี้ หากจะเปรียบก็คงคล้ายเป็นห้องล็อบบี้ของโรงแรม ที่มีทั้งติดต่อประชาสัมพันธ์, ร้านอาหาร, ลานนั่งพัก และที่สำคัญมี "จุดกางเต้นท์" เป็นลานสนามหญ้ากว้างขวาง ให้เลือกตั้งเต้นท์พักค้างคืนในอัตราคืนละ 30 บาท โดยมีเงื่อนไขต้องเป็นเต้นท์ที่คุณนำไปเองเท่านั้น เพราะที่ทำการเขตฯ ย้ำมาว่าที่นี่ไม่มีเต้นท์ให้เช่าแต่อย่างใด ซึ่งหลายบริษัททัวร์ หรือรีสอร์ตที่คุณใช้บริการอยู่ส่วนใหญ่น่าจะมีบริการเต้นท์เป็นโปรโมชั่นพิเศษให้คุณด้วย หากสนใจก็ลองสอบถามกันดูก่อนได้
การนอนเต้นท์ในที่ทำการเขตฯ มักจะเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการยลน้ำตก "ทีลอซู" ในบรรยากาศยามเช้าตรู่ ที่ล่ำลือว่า "แสงกำลังดี" ซึ่งเหมาะแก่การลั่นชัตเตอร์ถ่ายภาพให้ได้ภาพสวยเป็นที่สุด ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็ตามแต่เวลาที่มีจำกัดของนักท่องเที่ยวแต่ละคนแต่ละคณะ คือหากไม่นอนเต้นท์ ทีลอซูท่ามกลางแดดยามบ่ายก็สวยไม่ส่าง ถ่ายรูปมุมไหนก็สวยไม่แพ้กัน
และไม่ว่าคุณจะเลือกพักแรมนอนเต้นท์หรือไม่ ก็ยังมีหนทางระยะทางอีกเพียง 1.5 กม.รออยู่ข้างหน้า ให้คุณเดินเท้าบุกป่าฝ่าดงเข้าไป โดยมีน้ำตกที่สวยเป็นอันดับ 6 ของโลก "ทีลอซู" รอคอยคุณอยู่



















ระยะทางกว่า 1.5 กม. ที่คุณจะได้เดินต่อจากนี้ ไม่มีอะไรยากเย็นนัก เพราะทางเดินผ่านป่าดิบชื้นถูกถางให้คนเดินได้ค่อนข้างสะดวก โดยเฉพาะระยะแรก ๆ จะเป็นทางกระเบื้องลอยที่แม้ดูจะยังสร้างไม่สมบูรณ์นัก แต่ก็ทำให้เดินกันง่าย ๆ และระหว่างทาง 1.5 กม.ที่เดินไป ก็จะมีจุดให้คุณแวะหาสาระได้จากป้ายความรู้ ที่ปักตั้งไว้ตรงบริเวณที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นสภาพเปลือกต้นยางที่มีลักษณะเป็นรูโหว่แปลก ๆ , ป้ายแนะนำพันธุ์พืชหาดูยาก, ระบบนิเวศน์เฉพาะบางบริเวณ, ต้นไม้ที่สูงที่สุดในป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ฯลฯ ก็ตามแต่จะเลือกแวะอ่านกันตามอัธยาศัย
....ยิ่งเดินลึกเข้าไป ก็ยิ่งได้ยินเสียงของสายน้ำกำลังตกซู่ ๆ อยู่ภายในป่าข้างหน้า ยิ่งลึกก็ยิ่งดังขึ้น เสียงของ "ทีลอซู" กำลังร้องเรียกเย้ายวนให้คุณเร่งฝีเท้าก้าวเข้าไปอย่างใจร้อน จนก้าวสุดท้ายคุณก็มาหยุดอยู่หน้าน้ำตกดำ "ทีลอซู" ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า
"ทีลอซู" น้ำตกที่สวยติดอันดับ 1 ใน 6 ของโลก น้ำตกหินปูนสูงกว่า 300 เมตร แต่หากวัดจากระดับน้ำทะเลแล้วบนยอดสุดของทีลอซูจะมีความสูงถึง 900 เมตรเลยทีเดียว บวกกับความกว้างกว่า 500 เมตร วัดระหว่างเส้นสายน้ำตกฝั่งซ้ายสุดถึงสายน้ำตกฝั่งขวาสุด เป็นสายน้ำที่ตกลงมาจากลำห้วยกล้อทอทั้งสาย เกิดเป็นสายน้ำตกที่สวยงามโอบล้อมด้วยป่าดงพงไพร ซึ่งคุณสามารถเข้าไปสัมผัสกับน้ำทีลอซูได้ ด้วยการไปเล่นน้ำตกบนแอ่งชั้น 2 หรือชวนเพื่อนไปกระโดดน้ำตกชั้น 3 สักครั้งสองครั้ง พร้อมกับถ่ายรูปตอนที่คุณกำลังลอยอยู่กลางอากาศ ก็ถือว่าคุ้มแล้ว และถือว่าได้มายลทีลอซูแบบไม่เสียเที่ยว
หลังจากยลน้ำตก "ทีลอซู" กันเต็มที่แล้ว โปรแกรมการท่องเที่ยวใน อ.อุ้มผาง จ.ตาก ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะแพคเกจท่องเที่ยวในอำเภอนี้ยังจะพาคุณไปเก็บตกก่อนกลับ กับบรรยากาศ "ทะเลหมอก" ยามเช้าบน "ดอยหัวหมด" ที่นับเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นโผล่พ้นหลังภูเขาที่สวยงามอีกจุดหนึ่งของจังหวัดในภาคเหนือ
ใครที่เริ่มสนใจอยากจะไปยลน้ำตกที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในเอเชีย "ทีลอซู" หรืออยากได้โปรแกรมเที่ยวทีลอซูที่ถูกจัดเป็นแบบแพ็คเกจในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ก็สามารถติดต่อสอบถามไปยัง "ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและอนุรักษ์อุ้มผาง" โทร.0-5556-1338 หรือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภาคเหนือ เขต 4 โทร.0-5551-4341-3

Friday, June 12, 2009

ล่องแก่งหินเพิง



ล่องแก่งหินเพิง ใช้แพยางนั่งได้ประมาณ 8 -10 คน ล่องในลำน้ำใสใหญ่ สภาพแก่งน้ำอยู่ในระดับ 3 -5 นักล่องแก่งจะต้องใช้ทักษะและความชำนาญในการพายสูงเมื่อนักท่องเที่ยวติดต่อล่องแก่งกับผู้ประกอบการแล้ว ผู้ประกอบการฯ จะพานักท่องเที่ยว ไปยังบริเวณขญ. 9 (ใสใหญ่) และเดินป่าไปยังต้นน้ำ ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 45 นาที จากนั้นจะเริ่มล่องแก่งมายังจุดสุดท้ายบริเวณ ขญ.9 สถานที่ตั้งหน่วยพิทักษ์ป่า ขญ.9 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี


ลักษณะของสายน้ำแก่งหินเพิง เป็นแก่งหินตอนปลายสุดของแม่น้ำใสใหญ่ ซึ่งมีลักษณะทางธรณีวิทยาเป็นชั้นหินทราย ครั้นเมื่อถึงฤดูฝน กระแสน้ำ จะไหลหลากอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดเกาะแก่ง ต่าง ๆ มากมาย แก่งหินเพิงเป็นที่มีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายกับสายน้ำ อันเชี่ยวกราก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม กระแสน้ำบริเวณแก่งหินเพิงจะไหลรุนแรงมาก ความตื่นเต้น ท้าทายการล่องแก่งสายนี้จุดเด่นอยู่ที่ตัวแก่งหินเพิงอันเป็นจุดเริ่มต้นของการล่องแก่ง ตัวแก่งหินเพิงมีลักษณะเป็นลานหินหักเท ลื่นลงมาจนเกิดเป็นกระแสน้ำวนและเชี่ยวกราก ต้องใช้ความสามารถและทักษะในการพายเป็นอย่างยิ่ง จากจุดเริ่มต้นเหนือแก่งหินเพิงลงมาจะผ่านแก่งวังบอน บริเวณนี้มีโขดหินสองฝั่งขวางกระแสน้ำอยู่ บีบให้กระแสน้ำเข้าหากัน เป็นรูปตัววี และถ้าผ่านแก่งวังบอนมาได้ กระแสน้ำหลังแก่งวังบอนจะไหลย้อนทิศทางตรงนี้สามารถพักเรือบริเวณนี้ได้ ล่องเรือต่อมาจะพบกับแก่งลูกเสือ ซึ่งมีความสนุกสนานเร้าใจไม่แพ้แก่งหินเพิง และผ่านไปจนถึงแก่งวังไทร และ แก่งงูเห่า ซึ่งเป็นแก่งสุดท้ายของการล่องแก่ง สายน้ำช่วงนี้แก่งวังไทรจะมีลักษณะเป็นคลื่นใหญ่ม้วนตัวขึ้นเป็นวง สร้างความตื่นเต้น เร้าใจได้พอสมควรแก่งต่าง ๆ ที่ล่องผ่าน


*แก่งหินเพิง เป็นจุดเริ่มต้นของการล่องแก่ง ลักษณะหินของแก่งหินเพิง เป็นแก่งยาวประมาณ 150 เมตร ในช่วงฤดูฝน เป็นสุดยอดของการล่องแก่ง ทริปนี้


*แก่งผักหนามล้อม มีลักษณะเป็นวังน้ำขนาดใหญ่กระแสไหลวนไปมา


แก่งวังบอน เป็นแก่งหินสั้น ๆ ยาวประมาณ 30 เมตร กระแสน้ำจะไหล ลาดเอียงลงมาประมาณ 30 องศาผ่านชั้นหินและเกาะต่าง ๆ จากนั้นน้ำจะไหล เอื่อย ๆ ลงมายังแก่งลูกเสือ*แก่งลูกเสือ มีลักษณะเป็นแก่งน้ำเล็ก ๆ มีร่องน้ำสามารถพายเรือยางผ่านไปได้ แต่ต้องระมัดระวังอันตรายจากกิ่งไม้ที่ยื่นออกมา


แก่งวังไทร มีลักษณะเป็นแก่งหินกว้างประมาณ 50-60 เมตร ยาวประมาณ 150 เมตร ความกว้างของแก่งพอ ๆ กับแก่งลูกเสือ มีความลาดชันประมาณ 30 องศา กระแสน้ำจะไหลผ่านเกาะแก่งต่างๆ แล้วม้วนตัวเป็นวงคลื่น ต้องใช้ทักษะความชำนาญในการพายเรือค่อนข้างสูง


*แก่งงูเห่า ตั้งอยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าที่ ขญ.9 ถ้าปริมาณน้ำไม่มากนัก จะแลเห็นเกาะแก่งต่าง ๆ โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ แต่ถ้าอยู่ในช่วงฤดูฝน กระแสน้ำจะไหลท่วมเกาะแก่งต่าง ๆ จนมีลักษณะคล้ายกับฝายกั้นน้ำการล่องแก่งหินเพิงส่วนมากจะมาขึ้นฝั่งกันบริเวณแก่งวังไทร เพราะมีห้องสุขา และห้องอาบน้ำไว้บริการนักล่องแก่ง หรืออยากจะพักผ่อนนั่งรับประทาน อาหารกลางวันที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้ก็ได้ เป็นอันสิ้นสุดการผจญภัยในแก่งหินเพิง